ความแตกต่างในการจัดอันดับผลการค้นหาของ Google และ Bing ในปี 2024
ปัจจุบัน Bing และ Google มีการจัดอันดับผลการค้นหาที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากการใช้ปัจจัยในการจัดอันดับที่แตกต่างกัน รวมถึงการให้ความสำคัญกับปัจจัยต่างๆ ในการจัดอันดับหน้าเว็บ
-
การประมวลผลคำค้นหา Google ใช้การประมวลผลแบบ semantic search ที่เข้าใจความหมายและบริบทของคำค้นหาได้ดีกว่า Bing โดยสามารถจับความหมายของคำที่คล้ายกันและภาษาธรรมชาติได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ขณะที่ Bing แม้จะพัฒนาขึ้นด้วยการผสานรวม OpenAI แต่ยังคงให้ความสำคัญกับคำค้นหาที่ตรงมากกว่า
-
Backlinks ทั้งสองเครื่องมือค้นหาให้ความสำคัญกับ backlinks แต่ Google เน้นคุณภาพของลิงก์มากกว่า เช่น ความเกี่ยวข้อง ความหลากหลาย และความน่าเชื่อถือ ในขณะที่ Bing ให้ความสำคัญกับปริมาณของลิงก์และ anchor text มากกว่า โดย Bing ยังให้ความสำคัญกับลิงก์จากโดเมน .edu และ .gov เป็นพิเศษ
-
Social Signals Bing ให้ความสำคัญกับ social signals หรือสัญญาณจากโซเชียลมีเดีย ซึ่งหมายถึง การที่หน้าเว็บมีการถูกแชร์หรือถูกกดไลค์มาก อาจมีโอกาสที่จะได้รับอันดับสูงขึ้นใน Bing ในขณะที่ Google เคยกล่าวไว้ว่า social media ไม่มีผลโดยตรงต่อการจัดอันดับ
-
คุณภาพเนื้อหา Google ใช้เกณฑ์ E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) ในการประเมินคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเนื้อหา ในขณะที่ Bing เน้นที่ความง่ายในการอ่านและความสดใหม่ของเนื้อหา เช่น การมีเนื้อหาที่ชัดเจนเข้าใจง่ายและมีข้อมูลอัปเดต
-
SEO ทางเทคนิค ทั้ง Google และ Bing ให้ความสำคัญกับการมีโค้ดที่สะอาด ความเร็วของหน้าเว็บ และการออกแบบที่รองรับมือถือ แต่ Google จะทำการจัดอันดับเวอร์ชันมือถือเป็นหลัก (mobile-first indexing) ในขณะที่ Bing ใช้ดัชนีเดียวกันสำหรับทั้งเวอร์ชันเดสก์ท็อปและมือถือ
การทำความเข้าใจและปรับกลยุทธ์ SEO ให้สอดคล้องกับการจัดอันดับของทั้งสองเครื่องมือค้นหาจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหา (Ignite Visibility, SEO.com, Semrush)