การใช้งานแอเรย์ (Array) ของ PHP (ตอนที่ 1)
ในบทความนี้ผมจะนำเสนอคำอธิบายง่ายๆ เกี่ยวกับแอเรย์และการนำไปประยุกต์ใช้งาน
แอเรย์จะประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆ คือ คีย์ (key) และ วาลู (value)
<?php
$array['key'] = 'value';
$array['key'] = array('value1', 'value2');
$array['key'] = array('value1', array('value2', 'value2'));
?>
แอเรย์ทั่วๆไปจะประกอบด้วย key และ value โดยที่ key อาจเป็น ตัวเลข หรือ ตัวอักษร (สัญลักษณ์บางตัวใช้งานได้เช่น - _) และ value ที่อาจเป็น ตัวเลข ตัวอักษร หรือกระทั่ง แอเรย์เอง
<?php
$array[] = 1;
$array[] = 2;
$array[] = 3;
?>
เราสามารถกำหนดแอเรย์ได้ด้วยวิธีอื่นๆได้อีกเหมือนด้านบน ซึ่งจะมีผลเหมือนกับ
<?php
$array = array(1, 2, 3);
?>
การดูค่าของแอเรย์ที่เก็บ อันนี้มีความสำคัญมากๆ เพราะหากเราไม่เข้าใจโครงสร้างของมัน เราอาจมีปัญหาในการเข้าถึงข้อมูลต่างๆในแอเรย์ได้
<?php
$array = array(1, 2, 3);
// แสดงผลข้อมูลในแอเรย์ ทั้งหมด
print_r($array);
/*
Array
(
[0] => 1
[1] => 2
[2] => 3
)
*/
// เข้าถึงแอเรย์แต่ละรายการ
echo $array[2]; // 3
echo $array[0]; // 1
?>
ลองดูตัวอย่างนะครับแอเรย์ที่ไม่ได้กำหนดค่าคีย์จะเริ่มต้นที่ 0 เสมอ
นอกจากนี้เรายังสามารถกำหนดค่าใหม่ให้กับแอเรย์ได้ตลอดเวลาแม้กระทั่งมีข้อมูลไม่เหมือนกับข้อมูลเริ่มต้น
ข้อมูลที่อยู่ภายในแอเรย์ไม่ได้เรียงลำดับตามค่าคีย์นะครับ แต่เรียงลำดับตามการจัดเก็บ ข้อมูลที่ถูกจัดเก็บก่อน จะอยู่ที่รายการแรกและรายการถัดมาตามลำดับ โดยไม่ได้เรียงลำดับตามค่าคีย์
<?php
// กำหนดค่าคีย์ไม่ได้เรียงตามลำดับตัวเลข
$array[1] = 2;
$array[0] = 1;
$array[3] = 3;
// แสดงผลข้อมูลในแอเรย์
print_r($array);
/*
Array
(
[1] => 2
[0] => 1
[3] => 3
)
*/
?>
มี 4 ตอนนะครับ อ่านต่อตอนอืนๆที่ลิงค์ด้านล่าง