ทำเว็บให้มีคนดู (ตอนที่ 3)
เมื่อ SE มาเยี่ยมเราเขามองหาอะไร?
SE จะมองหาใน Title, Keyword และ Description ครับ เนื่องจาก Tag พวกนี้ มักจะบอกว่าเว็บของเรามีอะไรบ้าง ดังนั้นก็เขียนไว้ซะครับ
<meta content="goragod.com Delphi VB Visual Basic C++ Component ActiveX Web page PHP HTML XHTML CSS RSS Javascript AJAX เดลไฟ วิชวล เบสิค จาวา ซอร์ส โค้ด เขียน ออกแบบ เว็บ โปรแกรม แอพพลิเคชั่น ทิป เทคนิค คอนเน็คเตอร์ พอร์ต คอมพิวเตอร์ คอมโพเน้นต์" name="Keywords" />
<meta content="goragod.com เว็บ การเขียนโปรแกรม ซอร์สโค้ด Delphi C++ VB PHP Javascript AJAX HTML XHTML CSS RSS" name="Description" />
<title>g-O-r-a-g-o-d.com [Delphi VB C++ PHP AJAX Javascript HTML XHTML CSS Chat Code RSS]</title>
SE จะให้ความสำคัญกับข้อความใน Tag เหล่านี้ในอันดับต้นๆครับ
แต่ ! ปัจจุบันนี้ SE บางแห่งเริ่มให้ความสำคัญกับ Tag พวกนี้น้อยลงแล้วครับ เนื่องจากหน้าเพจส่วนใหญ่ ไม่ได้มีเนื้อหาสอดคล้องกับ Tag เหล่านี้เท่าใดนัก เพราะคนส่วนใหญ่เขียนแต่เนื้อหา ไม่ค่อยเขียน META ครับ และบางทีโค้ดก็ถูกสร้างมาโดยระบบอัตโนมัติ เลยไม่สามารถเขียน META ที่สอดคล้องกับเนื้อหาได้ ดังนั้น SE ในปัจจุบัน จึงหันมาให้ความสำคัญกับเนื้อหาของเพจแทน
แล้ว SE รู้ได้ยังไงว่าเพจเรามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร
SE ใช้การวิเคราะห์ข้อความในเนื้อหาของเว็บครับ โดยดูจาก (ข้อมูลอาจไม่เรียงลำดับตามความสำคัญนะครับ เนื่องจาก SE แต่ละแห่งใช้วิธีวิเคราะห์แตกต่างกัน)
1. <h1 -6> ครับ คงรู้นะว่าอะไรจะสำคัญสุด ก็ใอ้ตัวใหญ่สุดบนเพจนั่นแหละ สำคัญสุด
2. จำนวนคำที่ใช้ต่อ 1 เพจ ที่ซ้ำกัน สมมุติ ใน 1 หน้า คุณมีคำว่า AJAX สัก 10 คำ คุณคิดว่า หน้านี้จะเขียนเกี่ยวกับอะไร
3. URL ของเพจ path ต่างๆ รวมถึงชื่อไดเร็คทอรี่สามารถบอกความหมายของเพจได้ครับ เช่น https://www.goragod.com/index.php?id=10 กับ https://www.goragod.com/ajax_seo.php คุณคิดว่าหน้าไหนบอกความหมายของหน้าได้ดีที่สุด
4. Title, Keyword และ Description
5. Tag ต่างๆ เช่น <em> <b> <i> <address> ใช้ให้ถูกที่ถูกเวลาถูกชนิด(ความหมายของแต่ละ Tag ว่ามีไว้เพื่ออะไร)
6. เนื้อหาที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ของภาษานั้นๆ ครับ เขียนแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง SE มันก็ไม่ค่อยอยากจะเข้าใจครับ
ดังนั้น ตอนนี้คุณคงรู้แล้วว่าในเพจของคุณควรมีอะไรบ้าง และคุณควรจะจัดการกับมันอย่่่างไร